LeddarTech ปล่อยตัวอย่างการผลิตของ LeddarVision Front-Entry (LVF-E) ซอฟต์แวร์ฟิวชันและการรับรู้ระดับต่ำที่ครอบคลุมซึ่งมีโปรเซสเซอร์ TI TDA4VM-Q1 สำหรับแอปพลิเคชัน ADAS L2/L2+

ตัวอย่าง “B” ของ LVF-E ของ LeddarTech ที่มี ECU ในตัว ได้นำเสนอโซลูชันที่ไม่เคยมีมาก่อนในภาคอุตสาหกรรมที่นำประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือระดับสูงของฟิวชันระดับต่ำมาสู่ตลาด ADAS ระดับเริ่มต้น

ควิเบก, June 29, 2023 (GLOBE NEWSWIRE) — LeddarTech®บริษัทซอฟต์แวร์ยานยนต์ที่ให้บริการเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ฟิวชันเซนเซอร์และการรับรู้ระดับต่ำที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วสำหรับ ADAS และ AD มีความยินดีที่จะประกาศว่าตัวอย่าง “B” ของระบบช่วยเหลือบนทางหลวง ADAS L2/L2+ ระดับเริ่มต้นและสแต็กซอฟต์แวร์ฟิวชันและการรับรู้ระดับต่ำ NCAP 2025/GSR 2022 ระดับ 5 ดาวของ LeddarVision™ ซึ่งปรับให้เหมาะสมสำหรับโปรเซสเซอร์ TDA4VM-Q1 (8 TOPS) จาก Texas Instruments มีวางจำหน่ายแล้ว

ผลิตภัณฑ์ LeddarVision Front-Entry (LVF-E) ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปลายปี 2565 ได้รับการออกแบบมาสำหรับลูกค้าที่ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันความปลอดภัย ADAS ระดับเริ่มต้นและความช่วยเหลือบนทางหลวง L2/L2+ การนำเสนอตัวอย่าง “B” ได้นำความก้าวหน้าที่น่าตื่นเต้นมาสู่ LVF-E ที่ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ Texas Instruments (TI) TDA4VM-Q1 ด้วยการใช้ประโยชน์จากตัวอย่าง “B” เหล่านี้ ทำให้ LVF-E มอบประโยชน์ด้านต้นทุนและประสิทธิภาพอย่างมากสำหรับฟิวชันระดับต่ำ ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่การเร่งการนำระบบ L2/L2+ ไปปรับใช้ นอกจากนี้ ความก้าวหน้านี้ช่วยลดข้อกำหนดของเซ็นเซอร์และโปรเซสเซอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถเข้าถึงตัวผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น อีกทั้งมีประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานอย่างกว้างขวางอีกด้วย โซลูชัน LeddarVision Front-Entry ยังถือเป็นการออกแบบแรกที่ตระกูลโปรเซสเซอร์ TDA4x ที่มีการบูรณาการสูงของ TI และประหยัดต้นทุนนั้นได้รับการนำเสนอในโซลูชันฟิวชันระดับต่ำ

ประโยชน์

  • ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น:
    • เพิ่มช่วงที่มีประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์เป็นสองเท่า จึงช่วยให้ ADAS ประสิทธิภาพสูงกำหนดเป้าหมายมาตรฐาน NCAP 2025 และ GSR 2022 ระดับ 5 ดาวได้ด้วยต้นทุนเซ็นเซอร์และระบบที่ต่ำกว่า
  • ลดต้นทุน:
    • ลดข้อกำหนดด้านฮาร์ดแวร์ลง: เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมที่มีการเปิดใช้งานด้วยกล้องด้านหน้า 120 องศาที่มีความละเอียด 1 ถึง 2 ล้านพิกเซลจำนวนหนึ่งตัว และเรดาร์มุมด้านหน้าระยะสั้นสองตัวในการกำหนดค่า 1V2R
    • การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์ม TDA4VM-Q1 ช่วยให้บรรลุการเป็นหนึ่งในการใช้ต้นทุนระบบที่ต่ำที่สุดสำหรับ ADAS ระดับเริ่มต้น L2/L2+ โดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพของระบบ

เยี่ยมชม หน้าผลิตภัณฑ์ LVF-Eของ LeddarTech สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและขอตัวอย่าง

“OEM และ Tier 1 มุ่งมั่นที่จะเพิ่มความสามารถด้านราคาที่เหมาะสมของ ADAS LeddarTech บรรลุเป้าหมายนี้โดยการลดจำนวนเซ็นเซอร์และค่าใช้จ่าย ทำให้ระบบมีความยุ่งยากน้อยลงและลดต้นทุนโปรเซสเซอร์ ในขณะที่ส่งมอบฟิวชันระดับต่ำ (LLF) และการรับรู้ระดับต่ำที่มีประสิทธิภาพสูงใน ECU เกรดยานยนต์ได้ การแสดงให้เห็นถึงความเข้ากันได้ของฟิวชันระดับต่ำกับโปรเซสเซอร์ TDA4VM-Q1 ของ TI ถือเป็นแถลงการณ์ทางการตลาดที่ทรงพลัง ความพร้อมใช้งานของตัวอย่าง ‘B’ ของชุดซอฟต์แวร์ LVF-E ของเราจะนำเสนอโซลูชันการรับรู้ที่คุ้มค่าโดยใช้ LLF ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับเทคโนโลยีของ LeddarTech ในตระกูลโปรเซสเซอร์ TDA4x ยอดนิยม” Charles Boulanger ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ LeddarTech กล่าว

เกี่ยวกับ LeddarTech

LeddarTech เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2550 ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่คิวเบคซิตี้และมีศูนย์การวิจัยและพัฒนาอยู่ที่มอนทริออล โตรอนโต และเทลอาวีฟโดยได้พัฒนาและจัดหาโซลูชันซอฟต์แวร์การรับรู้ที่ครอบคลุมซึ่งช่วยเปิดใช้งานการปรับใช้ ADAS และแอปพลิเคชันการขับขี่อัตโนมัติ เทคโนโลยีซอฟต์แวร์เกรดยานยนต์ของ LeddarTech ใช้อัลกอริทึมการมองเห็นของคอมพิวเตอร์และ AI เพื่อสร้างแบบจำลองสภาพแวดล้อม 3 มิติที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งจะช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้การนำทางปลอดภัยยิ่งขึ้นอีกด้วย เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง ปรับขนาดได้ และคุ้มค่านี้ใช้ประโยชน์จาก OEM และซัพพลายเออร์ระดับ 1-2 เพื่อการใช้งานโซลูชันยานยนต์และรถออฟโรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

LeddarTech เป็นผู้รับผิดชอบในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในด้านยานยนต์และการเคลื่อนที่ระยะไกลที่ทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีทั้งที่จดสิทธิบัตรแล้วหรือที่รอการอนุมัติมากกว่า 150 รายการที่ช่วยเสริมขีดความสามารถ ADAS และการขับขี่แบบอัตโนมัติ การรับรู้ของยานพาหนะที่ดีขึ้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ยานยนต์ทั่วโลกปลอดภัยขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยั่งยืน และราคาไม่แพง นี่จึงเป็นสิ่งที่ผลักดันให้ LeddarTech กลายเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์ฟิวชันเซ็นเซอร์และการรับรู้ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ LeddarTech ได้ที่ www.leddartech.com และที่ LinkedIn, Twitter, Facebook และ YouTube

ติดต่อ:Daniel Aitken รองประธานฝ่ายการตลาดระดับโลก การสื่อสาร และนักลงทุนสัมพันธ์ของ LeddarTech Inc. โทร.: + 1-418-653-9000 ต่อ 232 daniel.aitken@leddartech.com

Leddar, LeddarTech, LeddarVision, LeddarSP, VAYADrive, VayaVision และโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ LeddarTech Inc. และบริษัทในเครือ แบรนด์ ชื่อผลิตภัณฑ์ และเครื่องหมายอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นหรืออาจเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนที่ใช้เพื่อระบุผลิตภัณฑ์หรือบริการของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

GlobeNewswire Distribution ID 8866420

ATP Electronics เปิดตัว Industrial 176-Layer PCIe® Gen 4 x4 M.2, U.2 SSD ที่นำเสนอประสิทธิภาพ R/W ที่ยอดเยี่ยมพร้อมความจุสูงสุด 7.68 TB

PCIe รุ่นที่เร็วที่สุดพร้อมอัตราข้อมูล Gen 3 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ลดเวลาแฝง นำเสนอประสิทธิภาพ R/W zยอดเยี่ยม

ATP_Gen 4 M.2 2280 NVMe

ATP Electronics Launches Industrial 176-Layer PCIe Gen 4 x4 M.2 U.2 SSDs Offering Excellent RW Performance 7.68 TB Highest Capacity

TAIPEI, Taiwan, June 28, 2023 (GLOBE NEWSWIRE) — ATP Electronics ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลและหน่วยความจำเฉพาะทาง เปิดตัวอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล N600 Series M.2 2280 และ U.2 solid state drives (SSD) ความเร็วสูงรุ่นล่าสุด ซึ่งประกอบด้วยอินเทอร์เฟซ PCIe® รุ่นที่ 4 และรองรับโปรโตคอล NVMe™ อัตราข้อมูล 16 GT/s ของ ATP PCIe Gen 4 SSD ใหม่นั้นสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึงสองเท่า ซึ่งแปลงเป็นแบนด์วิดท์ที่ 2 GB/s สำหรับเลน PCIe ทั้งหมด

เมื่อใช้เลน x4 อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล SSD เหล่านี้มีแบนด์วิดท์สูงสุด 8 GB/s ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงเพื่อการใช้งานตามความต้องการที่หลากหลายในปัจจุบัน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการปฏิบัติงานซึ่งเน้นทั้งการอ่าน/การเขียนเป็นหลัก เช่น ระบบเครือข่าย/เซิร์ฟเวอร์, 5G, การบันทึกข้อมูล, การเฝ้าระวัง และการสร้างรูปภาพ พร้อมประสิทธิภาพเทียบเท่า SSD สำหรับผู้บริโภค PCIe Gen 4 หลักในตลาด

ATP_Gen 4 M.2 2280 NVMe_pic3

ATP Electronics Launches Industrial 176-Layer PCIe Gen 4 x4 M.2 U.2 SSDs Offering Excellent RW Performance 7.68 TB Highest Capacity

176-Layer NAND Flash พร้อม DRAM ติดตั้งภายในตัวเครื่องนำเสนอ QoS ที่ยอดเยี่ยม
ลดค่าใช้จ่ายต่อ GB ด้วยแพ็คเกจ Prime 512 Gbit Die

N600 Series สร้างขึ้นด้วยนวัตกรรม 176-layer 3D NAND Flash และใช้แพ็คเกจ Prime 512 Gbit Die เพื่อส่งมอบการปรับปรุงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเทคโนโลยี 64-layer รวมถึงการปรับเปลี่ยนราคาซึ่งส่งผลให้ต้นทุนต่อ GB ลดลง

M.2 2280 SSD มีความจุตั้งแต่ 240 GB ถึง 3.84 TB ในขณะที่ U.2 SSD มีความจุตั้งแต่ 960 GB ถึง 7.68 TB ซึ่งเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าสำหรับความต้องการในการใช้งานพื้นที่เก็บข้อมูลที่หลากหลาย

ATP-Gen4-U.2-NVMe_N601Sc

ATP Electronics Launches Industrial 176-Layer PCIe Gen 4 x4 M.2 U.2 SSDs Offering Excellent RW Performance 7.68 TB Highest Capacity

ด้วยคะแนนคุณภาพการบริการ (QoS) ที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า N600 Series นำเสนอความสอดคล้องที่เหมาะสมและความสามารถในการคาดการณ์ที่มีประสิทธิภาพในการอ่าน/การเขียนที่สูงขึ้น, IOPS สูง, ดัชนีการขยายการเขียน (WAI) ต่ำ และเวลาแฝงต่ำ ด้วย DRAM ที่ติดตั้งมาในตัวเครื่อง DRAM ที่ติดตั้งในตัวเครื่องส่งมอบประสิทธิภาพที่ยั่งยืนกว่าในระยะเวลาการทำงานที่ยาวนาน เมื่อเทียบกับโซลูชั่นที่ไม่มี DRAM

การสนับสนุนการจัดจำหน่ายระยะยาวที่พร้อมสำหรับอนาคต

การเพิ่มอายุการใช้งาน SSD ในระดับสูงสุด รวมถึงความพร้อมในการเปลี่ยนชุดอุปกรณ์ที่คงอยู่ยาวนานแม้ว่าผลิตภัณฑ์ระดับผู้บริโภคที่คล้ายกันจะเลิกผลิตไปแล้วก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์สูงสุดจากการลงทุน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ ATP Electronics มุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนลูกค้าอย่างยาวนาน

ATP_M.2-NVMe_2021_Fin-Type

ATP Electronics Launches Industrial 176-Layer PCIe Gen 4 x4 M.2 U.2 SSDs Offering Excellent RW Performance 7.68 TB Highest Capacity

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ซึ่งใช้ NAND Flash แบบ Triple Level Cell (TLC) 176-layer ในขณะที่มีการผลิตซ้ำ NAND รุ่นใหม่กว่าที่มี 2XX+layers โดยจะมุ่งเน้นไปที่อัตรา 1 Tbit และขนาดความจุที่ใหญ่ขึ้น 176-layer 3D TLC NAND ในความจุ 512 Gbit ยังคงเป็นความจุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานแบบฝังตัวและการใช้งานเฉพาะทางมากมาย เนื่องจากความต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่องสำหรับอุปกรณ์ SSD ที่มีความจุปานกลางและต่ำ

ATP-Gen4-U.2-NVMe_N651Si_7.68TB

ATP Electronics Launches Industrial 176-Layer PCIe Gen 4 x4 M.2 U.2 SSDs Offering Excellent RW Performance 7.68 TB Highest Capacity

“นอกเหนือจากระดับราคาที่แข่งขันได้ รุ่นนี้ยังนำเสนอการปรับปรุงเวลาแฝงและการปรับปรุงความน่าเชื่อถือสำหรับการทำงานในทุกช่วงอุณหภูมิ รุ่นนี้จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งคุณสมบัตินี้อาจมีความสำคัญมากกว่าสำหรับฐานลูกค้าของเรา เราสามารถทำงานกับฐานลูกค้าที่ต้องการวางแผนการใช้งานผลิตภัณฑ์ที่ยาวนานกว่า 5 ปีได้ด้วยความมั่นใจ” Jeff Hsieh ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ATP Electronics กล่าว

Gen-4-x4-M.2_U.2-SSDs

ATP Electronics Launches Industrial 176-Layer PCIe Gen 4 x4 M.2 U.2 SSDs Offering Excellent RW Performance 7.68 TB Highest Capacity

การทำงานที่เชื่อถือได้และปลอดภัย
N600 Series นำเสนอคุณสมบัติหลักที่มีความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และความสมบูรณ์ของข้อมูล เช่น:

  • การปกป้องข้อมูลแบบครบวงจร การรองรับฟังก์ชัน TRIM และ การแก้ไขข้อผิดพลาดของ LDPC
  • ตัวต้านทานซัลเฟอร์ขจัดผลกระทบที่เป็นอันตรายจากการปนเปื้อนซัลเฟอร์ รับประกันการทำงานที่เชื่อถือได้อย่างต่อเนื่องแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีปริมาณซัลเฟอร์สูง
  • การเข้ารหัส AES 256-bit บนฮาร์ดแวร์และระบบการรักษาความปลอดภัยเสริม TCG Opal 2.0/ IEEE 1667 สำหรับไดรฟ์แบบเข้ารหัสด้วยตัวเอง (SED)
  • N600Sc Series นำเสนอการทำงานที่เชื่อถือได้ในสภาพการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่หลากหลายด้วยอัตรา C-Temp (0°C ถึง 70°C) N600Si Series ที่สามารถทำงานได้ในอัตรา I-Temp (-40°C ถึง 85°C) จะออกวางจำหน่ายในภายหลัง
  • การควบคุมความร้อนจะปรับปริมาณงานตามเวลาของหน่วยการทำงานอย่างชาญฉลาด จะมีการกำหนดค่าของขั้นตอนการควบคุมไว้ล่วงหน้า ทำให้ตัวควบคุมสามารถจัดการกับการสร้างความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาความเย็นของ SSD ไว้ จึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพที่มีความเสถียรอย่างต่อเนื่องและปกป้องอุปกรณ์ไม่ให้เกิดความเสียหายจากความร้อน สามารถเลือกตัวเลือกแผงระบายความร้อนได้ตามโครงการและตามคำขอของลูกค้า
  • กลไกการป้องกันไฟฟ้าดับ (PLP) N600 Series U.2 และ M.2 2280 SSD สำหรับอัตรา I-Temp ที่กำลังจะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้มี PLP สำหรับฮาร์ดแวร์ ตัวเก็บประจุไฟฟ้าที่ติดตั้งในตัวเครื่องสามารถกักเก็บพลังงานได้นานพอที่จะทำให้คำสั่งอ่าน/เขียน/ลบล่าสุดนั้นเสร็จสิ้น และจะจัดเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำแฟลชแบบถาวรอย่างปลอดภัย การออกแบบโดยใช้ชุดอุปกรณ์ไมโครคอนโทรลเลอร์ (MCU) ช่วยให้อาร์เรย์ PLP ทำงานได้อย่างชาญฉลาดในสภาพอุณหภูมิที่หลากหลาย เมื่อไฟฟ้าขัดข้อง และในสถานะการชาร์จ เพื่อปกป้องทั้งอุปกรณ์และข้อมูลให้ปลอดภัย ในทางกลับกัน M.2 2280 SSD สำหรับอัตรา C-Temp มี PLP ที่ทำงานบนเฟิร์มแวร์ ซึ่งจะปกป้องข้อมูลที่เขียนไปยังอุปกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพก่อนที่ไฟฟ้าจะดับ

การใช้งานที่มีความสำคัญต่อการปฏิบัติงาน: เราสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ไปพร้อมกับคุณ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการรองรับของโครงการและคำขอของลูกค้า ATP สามารถให้บริการในการปรับแต่งฮาร์ดแวร์/เฟิร์มแวร์ การปรับแต่งโซลูชั่นระบายความร้อน และการตรวจสอบร่วมทางวิศวกรรมและการทำงานร่วมกัน

เพื่อให้มั่นใจถึงความน่าเชื่อถือในการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานที่มีความสำคัญต่อการปฏิบัติงาน ATP ได้ดำเนินการในด้านการทดสอบหลากหลายรูปแบบ การตรวจสอบคุณลักษณะการออกแบบ/ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมและการตรวจสอบข้อมูลจำเพาะ รวมถึงการทดสอบแบบกำหนดเองในขั้นตอนการผลิตจำนวนมาก (MP) เช่น การเบิร์นอิน การหมุนเวียนพลังงาน สคริปต์การทดสอบเฉพาะ และอื่น ๆ

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์

PCIe® Gen 4 NVMe M.2 2280 PCIe® Gen 4 NVMe U.2
ความจุ 240 GB ถึง 3.84 TB 960 GB ถึง 7.68 TB
อุณหภูมิในการทำงาน C-Temp (0°C ถึง 70°C): N600ScI-Temp (-40°C ถึง 85°C): N600Si (กำลังจะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้)
การจัดการความร้อนเพื่อการกระจายความร้อนที่เหมาะสมที่สุด •  แผ่นกระจายความร้อนทองแดงเคลือบนิกเกิลขนาด
•  4 มม. หรือ 8 มม. และการออกแบบครีบระบายความร้อน
การออกแบบครีบระบายความร้อนขนาด 15 มม
ระบบรักษาความปลอดภัย การเข้ารหัส TCG Opal 2.0 AES 256-bit
ความสมบูรณ์ของข้อมูล การปกป้องเส้นทางข้อมูลแบบครบวงจร
ประสิทธิภาพการทำงาน (อ่าน/เขียน) 6,450/6,050 MB/s 6,000/5,500 MB/s
อื่น ๆ ถอดเปลี่ยนได้ทันที

*ตามการรองรับของโครงการ

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ N600 Series PCIe Gen 4 x4 M.2 SSD ของ ATP โปรดไปที่:
https://www.atpinc.com/products/industrial-gen4-nvme-M.2-ssd
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ N600 Series PCIe Gen 4 x4 U.2 SSD ของ ATP โปรดไปที่:
https://www.atpinc.com/products/industrial-gen4-U.2-ssd

การติดต่อฝ่ายสื่อเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์: Kelly Lin (Kellylin@tw.atpinc.com)
ติดตาม ATP Electronics บน LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/atp-electronics

เกี่ยวกับ ATP
ATP Electronics (“ATP”) ได้อุทิศเวลา 30 ปีให้แก่ความเป็นเลิศด้านการผลิตในฐานะผู้ให้บริการชั้นนำด้านหน่วยความจำและผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล NAND Flash สำหรับการใช้งานแบบฝังตัว/เชิงอุตสาหกรรม/เชิงยานยนต์ที่แม่นยำ ในฐานะ “ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลและหน่วยความจำเฉพาะทาง” ATP เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในแง่ของความเชี่ยวชาญด้านโซลูชันการระบายความร้อนที่มีความทนทานสูง ATP มุ่งมั่นที่จะส่งมอบมูลค่าเพิ่ม ความแตกต่าง และ TCO ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ในฐานะผู้ผลิตที่แท้จริง ATP จัดการทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตเพื่อให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนานของผลิตภัณฑ์ ATP รักษามาตรฐานสูงสุดในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร โดยการเสริมสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนสำหรับพนักงาน สิ่งแวดล้อม และธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ATP Electronics โปรดไปที่ www.atpinc.com หรือติดต่อเราที่ info@atpinc.com

สามารถรับชมรูปภาพประกอบของการแถลงนี้ได้ที่:

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/56be0635-5027-442b-b9e7-c64c43e353d7

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/3f0e3129-6f53-4366-b5bc-fd0cdc86f5a1

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/63c5d538-09c1-4481-a188-e66cc487ecc9

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/512ea038-214a-4b27-bbf4-adf8fa8a3fac

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/400709dd-4d79-4e2a-ad76-e3bc7266f7a5

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/933e1523-0df5-485d-9a11-e130864b199b

GlobeNewswire Distribution ID 8863001

SAP Fioneer เปิดตัวการเสนอบริการด้านการธนาคารสำหรับธุรกิจ SME ที่ปรับให้เหมาะกับธุรกิจนั้น ๆ

วอลล์ดอร์ฟ, เยอรมนี, June 28, 2023 (GLOBE NEWSWIRE) — SAP Fioneer ผู้ให้บริการโซลูชันและแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์บริการทางการเงินชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศเปิดตัว Fioneer SME Banking Edition โซลูชันดังกล่าวจะช่วยให้ธนาคารและนีโอแบงก์สามารถนำเสนอความสามารถด้านการธนาคารในรูปแบบที่นำระบบดิจิทัลมาปรับใช้ให้ได้มากที่สุดและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยปรับให้เหมาะกับความต้องการทางการเงินของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดที่ได้รับการตอบสนองไม่เต็มที่ในอดีต

ภาคธุรกิจ SME เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเศรษฐกิจโลก โดยคิดเป็น 99% ของธุรกิจในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป และมีการจ้างงานประมาณ 16.4 ล้านคนและ 84 ล้านคนตามลำดับ* แม้ว่าจะเป็นสัดส่วนที่สูงมากของ GDP และกำลังแรงงาน แต่เดิมทีแล้วธุรกิจ SME ต้องใช้ความพยายามในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของธุรกิจได้ เนื่องจากเป็นที่รับรู้กันว่าความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องนั้นถือว่าสูงเกินไป

Fioneer SME Banking Edition จัดการกับความท้าทายเหล่านี้โดยการเชื่อมต่อธนาคารกับแหล่งข้อมูลภายนอก เช่น Open Banking ข้อมูลทะเบียนบริษัทกลาง อีคอมเมิร์ซ และข้อมูลการวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning หรือ ERP) เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้ซึ่งช่วยให้ธุรกิจ SME สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีนัยสำคัญ โซลูชันดังกล่าวจะช่วยให้ธุรกิจ SME มีความโปร่งใสอย่างชัดเจนเกี่ยวกับกระแสเงินสดและให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ธนาคารและเพิ่มความสามารถในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้ เช่น มีตัวเลือกการระดมทุนที่ชาญฉลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหลากหลายและเพิ่มจำนวนธุรกิจที่ธนาคารสามารถให้บริการได้

ในฐานะที่ Fioneer SME Banking Edition เป็นโซลูชันแบบครบวงจรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงครอบคลุมความสามารถในการทำสิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ และผสานรวมกับระบบงานหลักด้านการธนาคารได้อย่างราบรื่น โซลูชันดังกล่าวช่วยให้ธนาคารสามารถให้บริการที่นอกเหนือไปจากผลิตภัณฑ์ธนาคารแบบดั้งเดิม เช่น สินเชื่อและเงินฝากได้ ธนาคารจะสามารถขยายข้อเสนอของตนด้วยบริการแบบฝังตัวและการให้คำแนะนำทางการเงินที่ทรงพลังยิ่งขึ้นสำหรับธุรกิจ SME โดยตรง โซลูชันนี้ยังสามารถผสานรวมและเชื่อมต่อกับระบบนิเวศได้อย่างง่ายดายผ่าน API ที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้า

Charlie Platt กรรมการผู้จัดการฝ่ายการธนาคารของ SAP Fioneer แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดตัวว่า: “ธุรกิจ SME เป็นตัวแทนเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจ และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่ธุรกิจสมควรได้รับ ด้วย SME Banking Edition ของเรา ธนาคารจะสามารถสร้างประสบการณ์ด้านการธนาคารที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ ไม่เหมือนใคร และดียิ่งขึ้นสำหรับธุรกิจ SME ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวไปข้างหน้าในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทายได้”

“การเปิดตัว Fioneer SME Banking Edition ของเราช่วยเสริมความแข็งแกร่งในวิธีการที่ธนาคารโต้ตอบกับธุรกิจ SME ได้อย่างมาก เรากำลังอำนวยความสะดวกให้ธนาคารให้บริการแก่ธุรกิจ SME ได้ดียิ่งขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของเรา เรากำลังให้อำนาจแก่ธนาคารในการยกระดับการให้บริการให้แก่ธุรกิจ SME โดยได้ดึงแรงบันดาลใจมาจากตลาดธุรกิจไปยังผู้บริโภค (B2C)” Dirk Kruse ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SAP Fioneer กล่าวเสริม

*จำนวนประชากรทางธุรกิจโดยประมาณสำหรับสหราชอาณาจักรและภูมิภาคโดยรอบในปี 2565 (รัฐบาลสหราชอาณาจักร), Statista 2565

เกี่ยวกับ SAP Fioneer

SAP Fioneer เปิดตัวในปี 2564 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง SAP ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกและนักลงทุนผู้ประกอบการ Dediq เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการโซลูชันซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มบริการทางการเงินชั้นนำของโลก SAP Fioneer เป็นธุรกิจระดับโลกที่มีสาขาอยู่ใน 17 ประเทศทั่วทวีปยุโรป อเมริกาเหนือและละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียแปซิฟิก โดยมีระบบนิเวศของพันธมิตรที่กว้างขวาง ลูกค้าที่ให้บริการทางด้านการเงินกว่า 800 ราย และพนักงานมากกว่า 1,000 คน

SAP Fioneer ผสานความเร็วและความคล่องตัวของธุรกิจสตาร์ทอัพเข้ากับความสามารถที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของบริษัทซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุดในประเภทเดียวกัน SAP Fioneer ช่วยให้ธนาคาร บริษัทประกันภัย และคู่แข่งสามารถดำเนินการ เปลี่ยนแปลง และเติบโตไปพร้อมกับตอบสนองในด้านความต้องการด้านความเร็ว ความสามารถในการปรับขนาด และการประหยัดต้นทุนด้วยนวัตกรรมธุรกิจดิจิทัล เทคโนโลยีคลาวด์ และโซลูชันที่ครอบคลุมกระบวนการด้านการธนาคารและการประกันภัยแบบครบวงจร

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.sapfioneer.com ติดตาม SAP Fioneer ได้บน Twitter และบน LinkedIn

การติดต่อสอบถามสำหรับสื่อมวลชน:
press@sapfioneer.com

GlobeNewswire Distribution ID 1000827117

Curia ขยายการให้บริการการพัฒนาเซลล์ไลน์ด้วยแพลตฟอร์ม CHOZN

Curia ลงนามข้อตกลงการอนุญาตกับ MilliporeSigma เพื่อสนับสนุนการผลิตโปรตีนและแอนติบอดี

อัลบานี นิวยอร์ก, June 20, 2023 (GLOBE NEWSWIRE) — Curia ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำด้านการวิจัย การพัฒนาและการผลิตตามสัญญา ได้ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ลงนามในข้อตกลงการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์กับ MilliporeSigma ซึ่งเป็นธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตในอเมริกาเหนือของ Merck KGaA เมืองดาร์มสตัดท์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งช่วยให้ Curia และลูกค้าสามารถใช้เซลล์ไลน์ CHOZN® GS-/- สำหรับการผลิตโปรตีนเพื่อการบำบัดรักษาและแอนติบอดีได้ ด้วยข้อตกลงดังกล่าว เซลล์ไลน์ CHOZN GS-/- จะได้รับการรวมเข้ากับเวิร์กโฟลว์การพัฒนาเซลล์ไลน์ของ Curia และพร้อมใช้งานทันทีสำหรับลูกค้าของ Curia

แพลตฟอร์ม CHOZN® เป็นระบบการแสดงออกของเซลล์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในรังไข่หนูแฮมสเตอร์ของจีน (CHO) ที่ช่วยให้สามารถเลือกได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น และเพิ่มจำนวนโคลนที่ให้ผลผลิตสูงสำหรับการผลิตสารชีวภาพและโปรตีนรีคอมบิแนนต์ในการบำบัดรักษา ซึ่งประกอบด้วยเซลล์ไลน์ CHO ที่มีประสิทธิภาพสูง สื่อและฟีดที่จับคู่ เวกเตอร์สำหรับใช้ในการแสดงออกของยีนที่ปรับให้เหมาะสม และโปรโตคอลที่มีประสิทธิภาพ เซลล์ไลน์กลูตามีนซินเธเทส GS น็อกเอาต์ (GS-/-) ของแพลตฟอร์ม CHOZN ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้การเลือก การระบุ และการเพิ่มขนาดของโคลนที่ให้ผลผลิตสูงนั้นเหมาะสมสำหรับการผลิตยาโปรตีนรีคอมบิแนนท์ตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP)

“เรายังคงเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการให้บริการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพของเราจากการค้นพบผ่านการผลิตเพื่อใช้ในการวิจัยทางคลินิก” Christopher Conway ประธานแผนกวิจัยและพัฒนาของ Curia กล่าว “แพลตฟอร์มเซลล์ไลน์ CHOZN GS-/- ได้เพิ่มเซลล์ไลน์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและมีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ให้กับความสามารถของเรา การให้บริการแบบบูรณาการของเราช่วยเร่งการผลิตโปรตีนและแอนติบอดีเพื่อการบำบัดรักษา และให้บริการการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ราบรื่นเพื่อความยืดหยุ่นสูงสุด”

ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโปรตีนและแอนติบอดีของ Curia ได้เสนอประวัติของการเร่งความคืบหน้า โดยมีระยะเวลาเพียง 12 เดือนนับจากการพัฒนาเซลล์ไลน์ไปจนถึงสารของตัวยาระยะที่ 1 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการผลิตของผู้สมัคร

การมีแพลตฟอร์ม CHOZN เพิ่มเติมนั้นช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการเสนอการให้บริการของ Curia ในฐานะส่วนเสริมของเซลล์ไลน์ CHO ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทที่มีอยู่ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับโซลูชันที่หลากหลายและนำไปใช้ได้อย่างกว้างขวาง

เกี่ยวกับ Curia

Curia เป็นองค์กรการทำวิจัย การพัฒนา และการผลิตตามสัญญาชั้นนำที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และให้บริการตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา (R&D) ผ่านการผลิตเชิงพาณิชย์ให้แก่ลูกค้ายาและเวชภัณฑ์ชีวภาพ พนักงานเกือบ 4,000 คนของ Curia ใน 29 สาขาทั่วสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนจากความสงสัยไปสู่การแก้ไขปัญหา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่CuriaGlobal.com

ข้อมูลสำหรับติดต่อ Curia:
Viana Bhagan
+1 518 512 2111
corporatecommunications@CuriaGlobal.com

GlobeNewswire Distribution ID 8860042

Floship ได้รับเงินลงทุนจาก FedEx Innovation Lab เป็นรายที่สอง

การลงทุนดังกล่าวนับเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่ในด้านการพัฒนาเพื่ออนาคตของบริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่งสำหรับอีคอมเมิร์ซแบบหมุนเวียนทั่วโลก

ฮ่องกง, June 20, 2023 (GLOBE NEWSWIRE) — วันนี้ผู้ให้บริการโซลูชันห่วงโซ่อุปทานแบบหมุนเวียนชั้นนำระดับโลก Floship ได้ประกาศว่า ทางบริษัทได้รับเงินลงทุนจาก FedEx Innovation Lab (FIL) การลงทุนในครั้งนี้ของ FIL จะช่วยให้ Floship มีความสามารถมากขึ้นในการขยายการให้บริการไปยังตลาดใหม่ ๆ Floship พร้อมที่จะร่วมมือกับ FedEx เพื่อสร้างโซลูชันคลังสินค้าพร้อมจัดส่งและการส่งคืนสินค้าผ่านระบบดิจิทัลแบบครบวงจร ซึ่งจะช่วยสร้างระบบลอจิสติกส์แบบอัจฉริยะสำหรับทุกคน

ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้ลูกค้าอีคอมเมิร์ซของ FedEx สามารถใช้บริการเครือข่ายคลังสินค้าทั่วโลกของ Floship และความสามารถอันทรงพลังของแพลตฟอร์มลอจิสติกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของคลังสินค้าพร้อมจัดส่งสำหรับอีคอมเมิร์ซ ในขณะเดียวกัน ลูกค้าของ Floship จะสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกของ FedEx ตลอดจนตัวเลือกบริการขนส่งที่หลากหลายและครอบคลุมทุกด้านของ FedEx เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย

FedEx Innovation Lab ได้ลงทุนระยะแรกในบริษัทสตาร์ทอัพที่กำลังเติบโต เพื่อเพิ่มมูลค่าในด้านความสามารถและความเร็วในการเข้าสู่ตลาดให้กับบริษัทสตาร์ทอัพโดยใช้เครือข่าย ทรัพยากร และฐานลูกค้าทั่วโลกของ FedEx

Josh Tsui ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Floship ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าวว่า “Floship รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับ FedEx นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการดำเนินงานของ Floship เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการชั้นนำในด้านโซลูชันห่วงโซ่อุปทานแบบหมุนเวียนและคลังสินค้าพร้อมจัดส่งทั่วโลก ความสำเร็จนี้พิสูจน์ให้ลูกค้าอีคอมเมิร์ซของเราได้เห็นทิศทางเชิงกลยุทธ์ในอนาคตของ Floship และการปรับปรุงประสิทธิภาพในด้านการให้บริการของเรา” Tsui กล่าว

เกี่ยวกับ Floship

โซลูชันระบบนิเวศห่วงโซ่อุปทานแบบหมุนเวียนทั่วโลกของ Floship ครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกในทุก ๆ ด้าน จึงช่วยให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสามารถปฏิบัติงานได้อย่างสะดวกสบายที่สุด และช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถเน้นการขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตโดยมีความยืดหยุ่นในการลงทุน และในขณะเดียวกันก็ช่วยให้รู้สึกอุ่นใจ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.floship.com หรือติดตามเราที่ LinkedIn

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Floship โปรดติดต่อ

James Linacre หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร

โทรศัพท์: (+852) 5333-9420

อีเมล: pr@floship.com

GlobeNewswire Distribution ID 8860146

โซลูชันใหม่ที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนในการจัดการกับการสูบบุหรี่ทั่วโลก: บรรดาผู้เชี่ยวชาญจะประชุมกันที่โปแลนด์ที่งาน Global Forum on Nicotine

GFN23

Tobacco harm reduction can hasten an end to smoking-related death and disease. Copyright-free photo by Mathew MacQuarrie on Unsplash.

วอร์ซอ, โปแลนด์, June 20, 2023 (GLOBE NEWSWIRE) — ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ หน่วยงานกำกับดูแล ผู้บริโภค และผู้ผลิตกำลังประชุมกันในสัปดาห์นี้ในเมืองหลวงของโปแลนด์ เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการใหม่ในการจัดการกับการเสียชีวิตและโรคจากการสูบบุหรี่ในระดับโลก ในช่วงเวลากว่าสี่วัน ผู้บรรยาย 70 คนและผู้แทนหลายร้อยคนในการประชุม Global Forum on Nicotine ประจำปีครั้งที่ 10 (21 – 24 มิถุนายน) จะมุ่งเน้นไปยังประเด็นของการลดอันตรายจากยาสูบ ซึ่งสนับสนุนให้ผู้ใหญ่ที่ไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้เปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์นิโคตินที่มีความปลอดภัยกว่า

แม้จะมีความพยายามในการควบคุมยาสูบมานานหลายทศวรรษ แต่ทั่วโลกก็กลับมีผู้คนนับพันล้านคนที่ยังคงสูบบุหรี่อยู่ โดยมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากการสูบบุหรี่แปดล้านคนในแต่ละปี ผู้สูบบุหรี่ 4 ใน 5 คนอาศัยอยู่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง โดยมีความสามารถในการรับมือกับภาระโรคที่ตามมาได้ต่ำ และการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุหลักของความไม่เท่าเทียมทางสุขภาพในประเทศที่มีรายได้สูง สารพิษนับพันที่ปล่อยออกมาเมื่อมีการเผาไหม้ของยาสูบทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ แต่ไม่ใช่นิโคตินซึ่งเป็นสารที่มีความเสี่ยงต่ำ

บุหรี่ไฟฟ้า สนูสพาสเจอร์ไรส์ นิโคตินแบบซอง และผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดใช้ความร้อนโดยไม่มีการเผาไหม้ ต่างก็ช่วยให้ผู้คนใช้นิโคตินได้โดยไม่ต้องเผาใบยาสูบ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง ค่าประมาณทั่วโลกระบุว่า 112 ล้านคนใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ แม้ว่าในบางประเทศจะมีระเบียบข้อบังคับที่ไม่สอดคล้องกันและมีข้อห้ามให้ใช้โดยสิ้นเชิง ความชุกของการสูบบุหรี่จะลดลงเร็วขึ้นหากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีจำหน่ายและได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม เช่น ในสหราชอาณาจักร สวีเดน ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์

GFN23 จะจัดการกับโอกาสและความท้าทายของการลดอันตรายจากยาสูบ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาระบบกำกับดูแลที่ช่วยให้ผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และในขณะเดียวกันก็ลดการสูบของเยาวชนด้วย เซสชันสตรีมสดฟรีจากกิจกรรมที่เปิดให้ทุกคนได้รับชม ซึ่งแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาสเปนและภาษารัสเซีย จะครอบคลุมเรื่องวิทยาศาสตร์ในทศวรรษที่ผ่านมาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นิโคตินที่ปลอดภัยกว่าและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในการช่วยเลิกบุหรี่ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับบุหรี่ที่เผาไหม้ได้ และผลกระทบในทางลบของจุดยืนและอุดมการณ์ทางศีลธรรมต่อวิทยาศาสตร์และระเบียบข้อบังคับ

แม้องค์การอนามัยโลกจะสนับสนุนการลดอันตรายของการป้องกันเอชไอวี/เอดส์และการใช้สารเสพติด แต่ก็คัดค้านการลดอันตรายของยาสูบ Iberoผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันที่ GFN23 จะหารือเกี่ยวกับกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ COP10 ของ WHO ที่ปานามาในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของผลิตภัณฑ์นิโคตินที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นอาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสุขภาพของประชาชนทั่วโลก

ก่อนที่จะมีการจัดงาน GFN23 Gerry Stimson ศาสตราจารย์กิตติคุณแห่ง Imperial College London และผู้ร่วมก่อตั้งงานได้เรียกร้องให้ผู้นำการควบคุมยาสูบระหว่างประเทศนำแนวทางที่มีเหตุผลและปฏิบัติได้ซึ่งให้ความสำคัญกับการช่วยชีวิตมาใช้: “เราต้องพักเรื่องอุดมการณ์เอาไว้ก่อน และผู้คนต้องได้รับการสนับสนุนในการเลิกบุหรี่ด้วยวิธีที่มีอยู่ทั้งหมด”

Global Forum on Nicotine (GFN) เป็นการประชุมระดับนานาชาติเพียงงานเดียวที่ให้ความสำคัญกับบทบาทของผลิตภัณฑ์นิโคตินที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้คนเลิกสูบบุหรี่ในแนวทางที่เรียกว่าการลดอันตรายจากยาสูบ ดูข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเพื่อรับชมเซสชันออนไลน์ฟรีได้ที่ https://gfn.events/

รูปภาพประกอบของการแถลงนี้สามารถรับชมได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/feaca847-b6e8-4140-9da8-e5658737df26

Ruth Goldsmith หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของ GFN23
ruth@gfn.events
https://gfn.events/

GlobeNewswire Distribution ID 1000826049

พิธีเปิดงาน ProCap Insurance

พิธีเปิดงาน ProCap Insurance พร้อมงานเลี้ยงอาหารค่ำ: ลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วมต่างเข้าร่วมในพิธีเปิดด้วยความยินดี

ลอนดอน, June 18, 2023 (GLOBE NEWSWIRE) — ในวันที่ 26-29 พฤษภาคม 2566 พันธมิตรและผู้ร่วมงานมากกว่า 300 รายจากกว่า 12 ประเทศและเขตแดนได้รวมตัวกันที่ Newport City Resort World Manila เพื่อเฉลิมฉลองพิธีเปิดงาน ProCap Insurance พร้อมงานเลี้ยงอาหารค่ำ งานนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเฉลิมฉลองเท่านั้น แต่ยังเป็นการบรรลุจุดสูงสุดของการแลกเปลี่ยนข้ามวัฒนธรรมอีกด้วย ในวันพิเศษนี้ ผู้เข้าร่วมได้ดื่มด่ำกับกิจกรรมอย่างเต็มที่และต่างก็มีช่วงเวลาที่น่าจดจำ

เพื่อเป็นการเพิ่มความสนุกสนานและความตื่นเต้นระหว่างงานกาล่าดินเนอร์ จึงได้มีการเล่นเกมตอบคำถามในสถานที่จัดงาน คำถามแต่ละข้อได้รับการออกแบบมาให้มีความท้าทาย ทำให้เกิดการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างแขกผู้มีเกียรติ เกมสิ้นสุดลงด้วยผู้โชคดี 5 คนที่ได้รับเงินสดคนละ 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ เกมนี้ทำให้ผู้เข้าร่วมแสดงจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันไปพร้อม ๆ กับการดื่มด่ำกับบรรยากาศการเฉลิมฉลองของงานเลี้ยงอาหารค่ำ

ในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ProCap Insurance ได้นำเสนอการจัดการโดยที่บริษัทแสดงให้ผู้ชมเห็นถึงทุนสำรองของบริษัทที่เป็นโทเค็น USDT มากกว่า 20 ล้านโทเค็นอย่างภาคภูมิใจ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท ผู้โชคดี 5 คนได้รับโทเค็น USDT มูลค่า 100 เหรียญที่โอนจากบัญชี USDT ของ ProCap Insurance เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเงินสำรองเป็นของ ProCap การนำเสนอนี้ไม่เพียงแต่สร้างความมั่นใจให้กับพันธมิตรและลูกค้าทั้งในปัจจุบันและที่เป็นไปได้ในอนาคตเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจระหว่าง ProCap Insurance และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอีกด้วย

นอกจากนี้ ไฮไลท์ของงานคือประสบการณ์การเล่นเกมแบบสดที่มีการนำระบบ System 7 Winning Formula ของ ProCap มาใช้เพื่อเล่นเกมทายผลภายในสถานที่ ณ ห้องวีไอพีของ Newport City Resort World การสาธิตการเล่นเกมสดนี้ทำให้ลูกค้าผู้ทรงคุณค่ามีโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตในการได้สัมผัสกับ System 7 Winning Formula ของ ProCap ผู้เข้าร่วมต่างก็รู้สึกตื่นเต้นกับประสบการณ์และได้รับความมั่นใจในอัลกอริธึมการเล่นเกมของ ProCap Insurance

งานจบลงด้วยการที่แขกผู้มีเกียรติของเราได้เยี่ยมชมห้องรับรอง VIP แห่งใหม่ของ ProCap ซึ่งตั้งอยู่ที่ Bonifacio Global City สุดพิเศษ ณ กรุงมะนิลา ห้องรับรองที่กว้างขวางและได้รับการปรับปรุงใหม่อย่างมีรสนิยมนี้ช่วยในการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างฐานลูกค้าที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ลูกค้าได้ขยายเครือข่ายของตนและปูทางสู่ความร่วมมือข้ามพรมแดนแห่งอนาคต

ProCap Insurance ขอแสดงความขอบคุณจากใจจริงต่อพันธมิตรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกท่านที่ทำให้งานทั้งสามวันนี้เกิดขึ้นได้ งานนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ ProCap Insurance เท่านั้น แต่ยังเป็นการปูทางไปสู่ความร่วมมือและการเติบโตในอุตสาหกรรมต่อไปอีกด้วย บริษัทจะยังคงรักษาคำมั่นสัญญาของเราที่มีต่อลูกค้าต่อไป ขณะเดียวกันเราก็ยังคงแน่วแน่ในพันธกิจของบริษัทในการคิดค้นและพัฒนาบริการประกันภัยที่เชื่อถือได้

Steve Hughes

ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการใช้สื่อ

steve.hughes@procap.insure

GlobeNewswire Distribution ID 8860005

พบกับนวัตกรรมแห่งอนาคต: เทคโนโลยี ASIC ขนาด 3 นาโนเมตร ในเครื่องขุดสกุลเงินดิจิทัล

นิวยอร์ก, June 17, 2023 (GLOBE NEWSWIRE) — ชุดเครื่องขุดสกุลเงินดิจิทัลรุ่นใหม่จาก Bitmanu กำลังเป็นที่พูดถึงในตลาดสกุลเงินดิจิทัล เครื่องขุด ASIC ขนาด 3 นาโนเมตรเหล่านี้ได้รับการยกย่องจากผู้เชี่ยวชาญหลายท่านว่าเป็นอนาคตของการขุดสกุลเงินดิจิทัล ด้วยขุมพลังมหาศาลของเครื่องขุด BM1, BM2 และ BM Pro จาก Bitmanu ทำให้เครื่องขุดเหล่านี้เป็นอุปกรณ์ขุดที่ทรงพลังและสร้างผลกำไรได้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เนื่องจากเครื่องขุด Bitmanu ใช้ชิปสารกึ่งตัวนำจากซิลิกอนรุ่นใหม่และล้ำหน้าที่สุด จึงมีทรานซิสเตอร์ที่หนาแน่นกว่า ความเร็วในการขุดที่เหนือกว่า และใช้พลังงานน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติที่ทำให้เครื่องขุด Bitmanu โดดเด่นไม่เหมือนใครก็คือ Hash Rate จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอุปกรณ์ขุดใดในตลาดที่มีพลัง Hash เทียบเท่าเครื่องขุดเหล่านี้ได้เลย

พลัง Hash ที่ไม่ธรรมดา

  • BM1: Bitcoin 760 TH/s, Litecoin 80 GH/s, Dash 15 TH/s, Monero 6 MH/s
  • BM2: Bitcoin 1220 TH/s, Litecoin 128 GH/s, Dash 25 TH/s, Monero 10 MH/s
  • BM Pro: Bitcoin 3900 TH/s, Litecoin 400 GH/s, Dash 75 TH/s, Monero 32 MH/s

เครื่องขุด Bitmanu แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในตลาด เนื่องจากใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้ง ๆ ที่มีพลังในการประมวลที่ไม่ธรรมดา ต้นทุนการใช้พลังงานที่ต่ำเช่นนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้เครื่องขุดเหล่านี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สามารถนำไปใช้ได้ในศูนย์ข้อมูล ตลอดจนโครงการขุดสกุลเงินดิจิทัลในครัวเรือน จุดที่น่าสนใจก็คือ ลูกค้าหลายรายของ Bitmanu สามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าเงินลงทุนได้ภายในไม่ถึงหนึ่งเดือน และสร้างผลกำไรได้มากมายหลังจากนั้น

กำไรต่อเดือนที่สูงเป็นประวัติการณ์

  • BM1: Bitcoin $1,300, Litecoin $1,800, Dash $4,800, Monero $3,600
  • BM2: Bitcoin $2,100, Litecoin $2,900, Dash $8,500, Monero $6,000
  • BM Pro: Bitcoin $6,600, Litecoin $8,900, Dash $20,000, Monero $22,000

David Letoski ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Bitmanu กล่าวว่า “ในตอนที่เราก่อตั้งบริษัท Bitmanu เรามีเป้าหมายที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวให้แก่ตลาด โดยทำให้การขุดสกุลเงินดิจิทัลสะดวกและทำกำไรได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน เราจึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้ทราบว่ามีลูกค้าหลายรายที่พึงพอใจกับผลิตภัณฑ์ของเราโดยไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลมาก่อน”

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bitmanu โปรดไปที่ https://bitmanu.com/

เกี่ยวกับ Bitmanu: Bitmanu เป็นบริษัทที่ยืนหยัดในฐานะผู้ผลิตชั้นนำ ซึ่งขับเคลื่อนโดยทีมงานนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล บริษัทมีเป้าหมายที่จะสร้างข้อได้เปรียบโดยอาศัยนวัตกรรมเทคโนโลยีล่าสุดที่ทุกคนเข้าถึงได้ Bitmanu จึงภูมิใจนำเสนอชุดเครื่องขุดสกุลเงินดิจิทัลที่น่าทึ่ง ซึ่งมอบผลตอบแทนในการลงทุนที่ดีเยี่ยมโดยมีความเร็วที่ไม่ธรรมดา

Alex Torum

media@bitmanu.com

+1 347 973 5948

GlobeNewswire Distribution ID 1000825717

การศึกษาใหม่เกี่ยวกับการพนันออนไลน์พบความเชื่อมโยงระหว่างสภาวะสุขภาพและการใช้เวลาบนหน้าจอที่มากเกินไป

แบบสำรวจที่ครอบคลุมเน้นให้เห็นถึงผลกระทบของการใช้เวลาบนหน้าจอที่มากเกินไปที่มีต่อความเป็นอยู่ที่ดี

Online Gambling and Health

Infographic showing Key Findings from Online Gambling and Health Survey

ลอนดอน, June 15, 2023 (GLOBE NEWSWIRE) — Minimum Deposit Casinos (MDC) ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำในด้านเกมการพนัน (iGaming) ได้จัดทำการศึกษาที่ครอบคลุมเป็นเวลานานหนึ่งเดือนเพื่อวิเคราะห์ปัญหาด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงกับการพนันออนไลน์และการใช้หน้าจอ/อุปกรณ์มากเกินไป วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ยึดตามหลักการการสร้างความตระหนักรู้และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแทรกแซง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนแนวทางปฏิบัติของการพนันออนไลน์ให้เป็นไปอย่างมีความรับผิดชอบ ประเด็นหลักในผลการวิจัยประการหนึ่งชี้ให้เห็นว่านักเล่นพนันออนไลน์ที่ได้สำรวจจำนวน 41% เคยมีประสบการณ์สัมผัสกับความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้า

จุดที่การวิจัยในเดือนพฤษภาคม 2566 ให้ความสำคัญได้แก่การเกิดภาวะต่าง ๆ จากการใช้งานหน้าจอที่มากเกินไปซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาวะสุขภาพ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ปวดศีรษะ ซึมเศร้า ปวดคอและหลัง ความผิดปกติของการนอนหลับ และการนอนไม่หลับ ได้มีการสำรวจนักเล่นพนันออนไลน์หลายร้อยคนทั่วทั้งสี่ประเทศ ได้แก่ แคนาดา นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา Minimum Deposit Casinos พบข้อมูลเชิงลึกที่เปลี่ยนแปลงชีวิตในความเชื่อมโยงระหว่างพฤติกรรมการพนันออนไลน์และปัญหาสุขภาพเหล่านี้ ซึ่งจะมีการใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสร้างแนวทางที่ยั่งยืนมากขึ้นในการปรับปรุงและช่วยเหลือในด้านการจำกัดเวลาการใช้งานหน้าจอของผู้ใช้งานทางออนไลน์ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมของผู้ใช้งานในอนาคต

\

 

 

ข้อค้นพบที่สำคัญ

ข้อค้นพบที่สำคัญจากการศึกษาเผยให้เห็นถึงแนวโน้มที่สำคัญของทั้งสี่ประเทศ โดยมีการพบว่านักเล่นพนันส่วนใหญ่มีความเครียดหรือวิตกกังวล โดยอุปกรณ์พกพาเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการเล่นพนันออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีการสรุปความชุกของอาการปวดหัวและไมเกรนในหมู่นักพนัน ซึ่งบ่งบอกถึงความเชื่อมโยงระหว่างความถี่ของการเล่นพนันออนไลน์และการเกิดภาวะเหล่านี้

การศึกษาเพิ่มเติมเผยให้เห็นการเกิดขึ้นของภาวะซึมเศร้า ความผิดปกติของการนอนหลับ และการนอนไม่หลับในหมู่นักเล่นพนันของทั้งสี่ประเทศ ความกังวลด้านสุขภาพเหล่านี้แพร่หลายมากขึ้นในกลุ่มผู้ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับกิจกรรมการพนัน

สามารถดูรายงานฉบับสมบูรณ์ซึ่งสรุปวิธีการและผลลัพธ์ได้ที่นี่: https://www.minimumdepositcasinos.org/2023/05/29/observing-the-online-gambling-habits-and-health-concerns-in-the-uk-ca-nz-us/

เกี่ยวกับ Minimum Deposit Casinos

Minimumdepositcasinos.org นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันเกี่ยวกับคาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุดทั่วโลก Minimum Deposit Casinos จัดทำขึ้นโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านคาสิโนออนไลน์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าและส่งเสริมแนวทางปฏิบัติในรูปแบบออนไลน์ให้เป็นไปอย่างมีความรับผิดชอบสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก

สามารถดูอินโฟกราฟิกส์ที่ใช้ประกอบการประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/501e25af-1d5f-4ef0-a69e-09ab07dbfce0

หากสื่อมวลชนต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อ:

อีเมล: info@minimumdepositcasinos.org

ทวิตเตอร์: @MinDeposCasino

GlobeNewswire Distribution ID 1000825448

FedEx และ Floship ก่อตั้งพันธมิตรทางการค้าขึ้นเพื่อมอบอนาคตในภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

การลงทุนจาก FedEx Innovation Lab และความร่วมมือด้านนวัตกรรมช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริการที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการจัดการคลังสินค้าและการส่งคืนสินค้าผ่านระบบดิจิทัลแบบครบวงจรของ FedEx

HONG KONG, June 14, 2023 (GLOBE NEWSWIRE) — FedEx Corp. (NYSE: FDX) และ Floship ผู้ให้บริการบริการที่ออกแบบเฉพาะสำหรับห่วงโซ่อุปทานแบบหมุนเวียนชั้นนำระดับโลกสำหรับแบรนด์อีคอมเมิร์ซต่าง ๆ ได้ประกาศเกี่ยวกับความร่วมมือที่ออกแบบมาเพื่อให้บริการด้านการจัดการคลังสินค้าและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นแก่ร้านค้าปลีกออนไลน์ทั่วโลก

ด้วยการลงทุนจาก FedEx Innovation Lab (FIL) ความร่วมมือดังกล่าวจะสร้างบริการที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการจัดการคลังสินค้าและการส่งคืนสินค้าผ่านระบบดิจิทัลแบบครบวงจร ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานผ่านการจัดการสินค้าคงคลังที่เหมาะสมที่สุดและการจัดส่งสินค้าที่ดีที่สุดในภาคธุรกิจระดับเดียวกันโดยใช้บริการของ FedEx

ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าอีคอมเมิร์ซของ FedEx สามารถเข้าถึงเครือข่ายคลังสินค้าทั่วโลกของ Floship และความสามารถของแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานด้านการจัดการคลังสินค้าสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ ในขณะเดียวกัน ลูกค้าของ Floship จะสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกของ FedEx รวมถึงตัวเลือกการขนส่งที่หลากหลายของ FedEx เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของลูกค้าได้อย่างเหมาะสมที่สุด

นอกจากนี้ ลูกค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของ FedEx และ Floship ในเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลางและแอฟริกา ยุโรป และอเมริกาเหนือจะสามารถเข้าถึงการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น การจัดส่งสินค้าถึงผู้รับปลายทางโดยตรง ตลอดจนการคืนสินค้าที่ไม่ยุ่งยาก

“ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเราในการเร่งวิธีคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับอนาคตของโลจิสติกส์” Salil Chari รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดและประสบการณ์ลูกค้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA) ของ FedEx Express กล่าว “ยอดขายอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก1 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสู่การซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคจึงมองหาบริการที่ราบรื่นไร้อุปสรรค ตั้งแต่ช่วงเวลาในการจัดส่งและการส่งคืนสินค้าที่ง่ายดายไปจนถึงประสบการณ์ที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย2 ในขณะเดียวกัน ร้านค้าปลีกออนไลน์ก็พยายามที่จะปรับปรุงระดับการให้บริการ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดต้นทุนในการให้บริการของตนเองให้มากที่สุดด้วย การร่วมมือกับนวัตกรในภาคอุตสาหกรรมอย่างเช่น Floship จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกออนไลน์แข่งขันได้ดีขึ้นด้วยการสนับสนุนจากเครือข่ายโลจิสติกส์ทั่วโลกของ FedEx”

Joshua Tsui ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Floship กล่าวเกี่ยวกับความร่วมมือครั้งนี้ว่า “Floship รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้ทำงานร่วมกับ FedEx เพื่อกำหนดขอบเขตในการจัดการคลังสินค้าอีคอมเมิร์ซทั่วโลกใหม่ เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นทั่วโลกหันมาใช้บริการอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องร่วมมือกันเพื่อให้บริการลูกค้าด้วยบริการที่ออกแบบเฉพาะที่เป็นนวัตกรรมซึ่งขยายความห่วงโซ่อุปทานเชิงเส้นแบบเดิมในรูปแบบใหม่ ด้วยการนำเสนอความร่วมมือนี้ออกสู่ตลาด เป้าหมายร่วมกันของเราคือการส่งมอบบริการที่ออกแบบเฉพาะสำหรับห่วงโซ่อุปทานสองทางแบบครบวงจรที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียวให้แก่แบรนด์อีคอมเมิร์ซและผู้ค้าปลีก ซึ่งช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ นั้นเติบโตในอัตราทวีคูณ อีกทั้งยังมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้าด้วย”

FedEx Innovation Lab (FIL) ดำเนินการด้านการลงทุนในระยะเริ่มต้นกับธุรกิจสตาร์ตอัปที่กำลังเติบโตในอินเดียเป็นหลัก ความร่วมมือเหล่านี้จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในแง่ของความสามารถและความเร็วในการวางตลาดให้กับบริษัทสตาร์ตอัปผ่านเครือข่ายทั่วโลก ทรัพยากร และฐานลูกค้าของ FedEx ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยขยายความสามารถด้านดิจิทัลขั้นสูงของ FedEx ไปทั่วโลก ในขณะที่ยังคงพัฒนาการดำเนินงานและผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อมอบคุณค่าแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของห่วงโซ่อุปทานสมัยใหม่ ซึ่งนับเป็นการลงทุนครั้งที่สองของ FIL

เกี่ยวกับ FedEx Corp.

FedEx Corp. (NYSE: FDX) ให้บริการลูกค้าและภาคธุรกิจทั่วโลกด้วยผลงานบริการด้านการขนส่ง อีคอมเมิร์ซ และการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย ด้วยรายได้ต่อปีที่ 93 พันล้านดอลลาร์ บริษัทนำเสนอบริการที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการผ่านบริษัทในเครือที่มีการแข่งขันร่วมกัน การดำเนินงานร่วมกัน และการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลในฐานะบริษัท FedEx เพียงหนึ่งเดียว FedEx ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในนายจ้างที่น่าชื่นชมและน่าเชื่อถือมากที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ FedEx จึงสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานกว่า 530,000 คน ให้คงมุ่งเน้นที่การรักษาความปลอดภัย มาตรฐานทางจริยธรรมและความเป็นมืออาชีพระดับสูงสุด ตลอดจนความต้องการของลูกค้าและชุมชนของพวกเขา FedEx มุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงผู้คนและความเป็นไปได้ต่าง ๆ ทั่วโลกด้วยความรับผิดชอบและความคิดริเริ่ม โดยมีเป้าหมายที่จะบรรลุผลสำเร็จในการดำเนินงานที่เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2040 หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ fedex.com/about หรือติดตามเราที่ LinkedIn และ Facebook

คุณสามารถอ่านข่าวประชาสัมพันธ์ของ FedEx Express ได้ที่เวิลด์ไวด์เว็บ https://newsroom.fedex.com/newsroom/amea

หากต้องการทราบข้อมูลเชิงลึกล่าสุดในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เพิ่มเติม โปรดไปที่:
FedEx Business Insights

เกี่ยวกับ Floship
บริการที่ออกแบบเฉพาะสำหรับระบบนิเวศห่วงโซ่อุปทานแบบหมุนเวียนทั่วโลกของ Floship ครอบคลุมทุก ๆ ด้านของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ทำให้มั่นใจได้ถึงความพยายามในการดำเนินงานในระดับที่น้อยที่สุดสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และช่วยให้เจ้าของธุรกิจเพ่งความสนใจไปที่การขับเคลื่อนการเติบโตด้วยการปรับการลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์ในขณะที่ยังคงรู้สึกอุ่นใจอยู่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.floship.com หรือติดตามเราที่ LinkedIn

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Floship โปรดติดต่อ:

James Linacre หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร

โทรศัพท์: (+852) 5333 9420

อีเมล:  pr@floship.com

__________________________________

1 https://www.oberlo.com/statistics/global-ecommerce-sales-growth
2 https://internetretailing.net/five-ways-that-customer-expectations-are-changing-what-the-research-says-22738/

GlobeNewswire Distribution ID 8858184